เกมบาคาร่าเป็นเกมที่กำลังได้รับความสนใจ และเป็นที่นิยมเกมหนึ่งในปัจจุบัน ด้วยสามารถศึกษาการเล่นและเล่นได้โดยง่ายทั้งผ่านเว็บไซด์ใช้คอมพิวเตอร์เล่น และเล่นได้ผ่านสมาร์ทโฟน และด้วยเกมเป็นเกมที่มีผู้เล่นที่หลากหลาย หลายคนก็ได้หันมาเขียนสูตรไพ่มังกรในการเอาชนะ ทำกำไรจากเกมบาคาร่าดังกล่าวนี้
วิธีการใช้สูตรเค้าไพ่บาคาร่า
การใช้สูตรถือเป็นหนึ่งในทริคสำคัญที่จะต่อยอดนำไปสู่การทำกำไรได้สำเร็จ แต่สูตรที่ดีจะต้องประกอบขึ้นมาจากการวิเคราะห์โดยอยู่บนหลักการเหตุและผล เข้าใจได้เรียบง่าย และนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง เป็นตัวช่วยที่จะทำให้ผู้เล่นได้เปรียบ เพิ่มโอกาสในการชนะเกมสูงมากขึ้น แม้ไม่มีสูตรใดที่จะใช้แล้วได้ผลทุกครั้ง เพียงแค่มีสูตรไว้ประกอบการตัดสินใจก็ย่อมดีกว่าการเดินเกมโดยสุ่ม หรือไม่มีสูตร ทั้งนี้ผู้เล่นต้องดูแนวทางศึกษาสถิติของเกมนั้นๆ ประกอบ และนำไปทดลองปรับใช้เองให้เหมาะสม ดังเช่นสูตรที่หยิบยกมานี้ ได้แก่
1.สูตรไพ่มังกร
เป็นที่นิยมของผู้ที่ช่ำชองเล่น เริ่มต้นจากการรู้จักสังเกตสิ่งที่เรียกว่า เค้าไพ่มังกร ซึ่งเป็นประเภทที่สังเกตเห็นได้ง่าย ออกได้บ่อย ผู้เล่นควรเริ่มต้นจากการเลือกห้องไพ่ที่เริ่มต้นเกมมาแล้วอย่างน้อยเข้ารอบที่ 5 และต้องวิเคราะห์โดยสังเกตสถิติดูด้วยว่าไพ่ไม่ได้มีเค้าออกไปในทิศทางใดมากกว่ากันระหว่างสองสี ทั้งแดงและน้ำเงิน ผู้เล่นจึงจะสามารถเลือกเสี่ยงทายแทงได้
ยกตัวอย่างเหตุการณ์ คือ ผู้เล่นต้องรอการปรากฏซ้ำของไพ่ เช่น ผู้เล่นชนะ > ผู้เล่นชนะ > ผู้เล่นชนะ > ผู้เล่นชนะ > ผู้เล่นชนะ > ผู้เล่นชนะ > มากกว่า 5 ครั้ง ก็เข้าสูตรไพ่มังกร เช่นเดียวกันกับการที่ไพ่ออก Banker ซ้ำๆ 3 ครั้ง เป็นต้นไป ผู้เล่นอาจเลือกเสี่ยงทายแทง Banker หรือที่เรียกกันว่าทริก “เดินตามมังกร” ต่อไปได้ ทั้งนี้เป็นเพราะมีความเป็นไปได้ทางสถิติความน่าจะเป็นสูงที่ผลไพ่จะปรากฏออกซ้ำอีก และด้วยสถิติที่ปรากฏต่อกันยาวคล้ายกับลักษณะของหางมังกร จึงเป็นที่มาของการเรียกไพ่สูตรนี้ว่า “สูตรไพ่มังกร” ทั้งนี้ควรเริ่มจากการวางจำนวนเงินน้อยๆ ไปก่อน
อีกเหตุการณ์คือเหตุการณ์ที่มีชื่อว่า “เค้าไพ่มังกรติดกัน” เป็นลักษณะของเกมที่คล้ายกับแบบไพ่มังกรธรรมดา แต่ต่างกันคือ หากฝ่ายแรกหลุดให้ฝ่ายที่สองชนะแทนอีกฝ่าย เช่น ในรอบแรกของการเล่น ฝ่ายเจ้ามือชนะไปแล้ว 7 ครั้ง เมื่อมังกรหลุด ในรอบต่อๆ ไปเค้าไพ่สูตรมังกรยังคงอยู่ เพียงแต่จะเกิดการสลับตัดไปฝ่ายผู้เล่นชนะแทน
2. สูตรไพ่ปิงปอง
อาศัยการรู้จักเป็นผู้วิเคราะห์เกม สังเกตได้ดี โดยการดูนั้นจะแตกต่างออกไปจากไพ่มังกร คือ ไพ่ปิงปองนั้นจะออกผลไพ่ปรากฏในรูปที่ตัดสลับไปมาระหว่างฝั่งของผู้เล่น และฝั่งของเจ้ามือ หากผู้เล่นสังเกตและพบว่าห้องไพ่ใดมีปรากฏการออกไพ่ดังกล่าวนี้ ให้ผู้เล่นประมวลผลและวิเคราะห์ตามเพื่อรอเสี่ยงทายแทงผลไพ่ได้เลย
ยกตัวอย่างเหตุการณ์ คือ ผู้เล่นจะต้องรอการปรากฏไพ่ออกสลับไปมา มากกว่า 3 ครั้ง เช่น ออกผลไพ่ Banker และ Player แล้วก็ออก Banker และ Player แล้วก็ออก Banker และ Player อีก ซ้ำแบบนี้มากกว่า 3 ครั้ง หรือแบบ ผู้เล่นชนะ >> เจ้ามือชนะ>>ผู้เล่นชนะ >> เจ้ามือชนะ>>ผู้เล่นชนะ >> เจ้ามือชนะ ออกสลับกว่า 6 ครั้ง จะถือว่าสถิติเข้าเกณฑ์สูตรไพ่ปิงปอง ให้ผู้เล่นวางเดิมพันเสี่ยงทายแทงผลไพ่สลับไปเรื่อยๆ ด้วยผลที่ปรากฏสลับไปมาจึงเป็นที่มาของชื่อเรียก “สูตรไพ่ปิงปอง”
ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของตัวผู้เล่นเอง ผู้เล่นควรใช้สูตรไพ่ประกอบกับสูตรบริหารเงินรูปแบบ 1-1-1 โดยการเสี่ยงทายแทงด้วยเงินในจำนวนที่เท่ากันไปเรื่อยๆ เช่น 100 บาท ก็ 100 บาทไปเรื่อยๆ แต่ไม่ควรเกิน 5 หรือ 6 ครั้ง เมื่อถึง 5 หรือ 6 แล้ว ให้ผู้เล่นเปลี่ยนห้องเล่น หรือยุติการเล่นของวันนั้น ทริกในการหยุดเล่นนั้นมีไว้เพื่อดึงสติป้องกันความรู้สึกโลภกระหายในเกม
สรุป
การเล่นบาคาร่าของค่ายต่างๆ นั้น แน่นอนว่าโอกาสที่เจ้ามือหรือเจ้าของจะชนะย่อมมีและเป็นไปได้มากกว่าผู้เล่นแบบเราจะชนะ หรือหากมีโอกาสชนะทำกำไรได้ ก็ให้ระลึกไว้เสมอว่าอาจสูญเสียกำไรไปจนถึงขั้นสูญเสียทุนที่ลงเล่นได้เช่นกัน